วารสารวิชาการข้าว https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ <p><strong>วารสารวิชาการข้าว</strong> เป็นวารสารราย 6 เดือน ของกรมการข้าว ประกอบด้วย 2 ฉบับต่อปี ได้แก่ ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม-มิถุนายน และฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานวิจัยและบทความวิชาการด้านข้าว</p> <p>โดยบทความที่จะได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่ต้องเป็นบทความวิจัย (research articles) และบทความปริทัศน์ (review articles) ทางวิชาการด้านข้าว ที่มีเนื้อหาสาระทั้งทางด้านพันธุ์ การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรพันธุกรรม เทคโนโลยีการผลิต การอารักขา เทคโนโลยีชีวภาพ วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและการแปรรูป วิทยาการเมล็ดพันธุ์และมาตรฐานพันธุ์ รวมทั้งสาขาและวิทยาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้าว ครอบคลุมทั้งประเภทงานวิจัยพื้นฐาน และงานวิจัยประยุกต์ โดยบทความที่ตีพิมพ์ทุกเรื่องต้องผ่านการพิจารณากลั่นกรองด้วยระบบการตรวจอ่านแบบผู้ประเมินบทความและผู้เขียนบทความไม่ทราบชื่อของแต่ละฝ่าย (double-blinded review system) โดยผู้ประเมินบทความจากภายนอกหน่วยงาน (external reviewers) จำนวน 2 ท่าน และได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการ</p> <p><strong>วารสารวิชาการข้าว</strong> เป็นวารสารที่ผ่านการรับรองคุณภาพของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai Citation Index, TCI) และอยู่ในฐานข้อมูล TCI วารสารกลุ่มที่ 1 ตามผลผลการประเมินคุณภาพวารสารใหม่เข้าสู่ฐานข้อมูล TCI ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมีระยะเวลาการรับรองคุณภาพวารสารตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ไปจนถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567</p> กองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว th-TH วารสารวิชาการข้าว 2985-2439 ข้าวสาลีพันธุ์ กขส1 (สะเมิง 72) https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ/article/view/100 <p>ประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์และนำเข้าเมล็ดและแป้งข้าวสาลี ในปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี จึงได้พัฒนาพันธุ์ข้าวสาลีให้มีผลผลิตสูง คุณภาพแป้งเหมาะสำหรับใช้ทำขนมปัง โดยการนำเข้าแหล่งพันธุกรรมจากศูนย์วิจัยการปรับปรุงข้าวโพดและข้าวสาลีนานาชาติ (CIMMYT) ประเทศเม็กซิโก ปลูกอนุรักษ์เชื้อพันธุ์ที่ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง และปรับปรุงพันธุ์ตามขั้นตอน คือ การปลูกศึกษาพันธุ์ คัดเลือกพันธุ์ การเปรียบเทียบผลผลิตและเสถียรภาพการให้ผลผลิตการทดสอบความต้านทานต่อโรคใบจุดสีน้ำตาล วิเคราะห์คุณภาพเมล็ดทางกายภาพและเคมี การแปรรูปเป็นขนมปังและประเมินการยอมรับของผู้ประกอบการต่อคุณภาพการแปรรูปเป็นขนมปัง ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531-2566 คัดเลือกได้สายพันธุ์ SMGBWS88008 และเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2567 คณะกรรมการพิจารณาพันธุ์ กรมการข้าว ได้มีมติให้เป็นข้าวสาลีพันธุ์รับรองใช้ชื่อว่าพันธุ์ “กขส1” (สะเมิง 72) มีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 89 วัน เมื่อปลูกโดยวิธีโรยเป็นแถว มีลักษณะทรงกอตั้งต้นสูงประมาณ 90 เซนติเมตร ใบสีเขียว ใบธงยาว 15.4 เซนติเมตร กว้าง 1.4 เซนติเมตร มุมใบธงค่อนข้างตั้ง คอรวงคดรวงแน่นปานกลาง รวงยาว 10.7 เซนติเมตร จำนวนเมล็ดดีต่อรวง 43 เมล็ด จำนวนรวงต่อตารางเมตร 344 รวง ผลผลิตเฉลี่ย 441 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดสีขาว เมล็ดมีรูปร่างวงรี เมล็ดยาว 6.28 มิลลิเมตร กว้าง 3.35 มิลลิเมตร หนา 2.82 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,000 เมล็ด เท่ากับ 39.5 กรัม น้ำหนักเมล็ดต่อปริมาตร 79.46 กิโลกรัมต่อเฮกโตลิตร ปริมาณโปรตีน ร้อยละ 12.5 ค่าการตกตะกอน 33.5 มิลลิลิตร กลูเตนเปียกร้อยละ 40.8 และกลูเตนแห้งร้อยละ 15.4 ลักษณะเด่น คือ ผลผลิตสูง และศักยภาพการให้ผลผลิตสูงถึง 569 กิโลกรัมต่อไร่ คุณภาพของโปรตีนเหมาะสมสำหรับทำแป้งขนมปังเหมาะสำหรับปลูกในภาคเหนือตอนบน ข้อควรระวัง คือ หากปลูกล่าช้าอาจทำให้เกิดโรคใบจุดสีน้ำตาล</p> สิปปวิชญ์ ปัญญาตุ้ย สาธิต ปิ่นมณี ศิลาวัน จันทรบุตร จารุวี อันเซตา ผกากานต์ ทองสมบุญ เปรมฤดี ปินทยา จินตนา ไชยวงค์ อาทิตยา ยอดใจ อัญชลี ตาคำ สุมาลี มีปัญญา บุษกร มงคลพิทยาธร นงนุช ประดิษฐ์ กาญจนา พิบูลย์ คคนางค์ ปัญญาลือ กุลชนา ดาร์เวล สุรพล ใจวงศ์ษา เนตรนภา อินสลุด Copyright (c) 2024 กรมการข้าว 2024-06-29 2024-06-29 15 1 6 20 ข้าวเหนียวพันธุ์ กข24 (สกลนคร 72) https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ/article/view/101 <p>ฤดูปลูกปี 2563/2564 ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวเหนียวร้อยละ 85 ใช้สำหรับบริโภคภายในประเทศ และประมาณร้อยละ 9 สำหรับการส่งออก พันธุ์ กข6 นิยมปลูกมากที่สุดเพราะคุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี มีกลิ่นหอม แต่ให้ผลผลิตต่ำ ลำต้นสูง หักล้มง่าย และอ่อนแอต่อโรคไหม้ เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวเหนียวไวต่อช่วงแสง ลำต้นเตี้ย ต้านทานการหักล้ม ต้านทานต่อโรคไหม้ ดีกว่าพันธุ์ กข6 และ กข18 เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมการข้าว และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ จึงร่วมกันพัฒนาพันธุ์ข้าว โดยการผสมพันธุ์แบบผสมเดี่ยวระหว่างข้าวเหนียวสายพันธุ์ RGDU07585-7-MAS35-4 ซึ่ง ลำต้นเตี้ย มีชิ้นส่วนพันธุกรรม (quantitative trait loci (QTL)) ให้เกิดความต้านทานต่อโรคไหม้ 1 ตำแหน่ง บนโครโมโซม 11 (qBl11) และมียีนต้านทานต่อโรคขอบใบแห้ง xa5 เป็นพันธุ์แม่ กับข้าวเหนียวสายพันธุ์ RGDU07123-12-22-5 ซึ่งลำต้นสูง คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี มีความต้านทานต่อโรคไหม้แบบกว้าง (broad-spectrum resistance) มี QTL ความต้านทานต่อโรคไหม้ 4 ตำแหน่งบนโครโมโซม 1 2 11 12 (qBl1, qBl2, qBl11, qBl12) เป็นพันธุ์พ่อ โดยการผสมพันธุ์แบบเดี่ยว ปลูกคัดเลือกข้าวสายพันธุ์ผสมชั่วที่ 3 ถึง 6 แบบสืบตระกูล ปลูกคัดเลือกข้าวสายพันธุ์ผสมชั่วที่ 7 ถึง 10 แบบสืบตระกูล จนได้สายพันธุ์ RGDU10017-1-MAS-49-4-1-NKI-1-3-1-2 ศึกษาวิจัยปรับปรุงพันธุ์ตามขั้นตอน คือ การเปรียบเทียบผลผลิต ทดสอบความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูข้าว การตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจน คุณภาพเมล็ดทางกายภาพ คุณภาพการสีคุณภาพเมล็ดทางเคมี คุณภาพการหุงต้ม และรับประทาน และการยอมรับของเกษตรกรในพื้นที่ และเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2567 คณะกรรมการพิจารณาพันธุ์ กรมการข้าว ได้มีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง ใช้ชื่อว่า ข้าวเหนียวพันธุ์ “กข24” (สกลนคร 72) เป็นข้าวเหนียวไวต่อช่วงแสง ปลูกได้เฉพาะฤดูนาปี ออกดอกร้อยละ 50 ประมาณวันที่ 21 ตุลาคม เก็บเกี่ยวประมาณวันที่ 23 พฤศจิกายน ผลผลิตเฉลี่ย 663 กิโลกรัมต่อไร่ ศักยภาพการให้ผลผลิตสูงสุด 1,002 กิโลกรัมต่อไร่ ทรงกอตั้ง ความสูงประมาณ 96 เซนติเมตร ลำต้นเตี้ย แข็งมาก ต้านทานการหักล้มดีกว่าพันธุ์ กข6 และ กข18 รวงยาว 25.7 เซนติเมตร ลักษณะรวงแน่นปานกลาง คอรวงสั้น จำนวนเมล็ดดีต่อรวง 170 เมล็ด น้ำหนัก 1,000 เมล็ด 27.0 กรัม เปลือกสีน้ำตาล ข้าวเปลือกมีความยาวเฉลี่ย 10.13 มิลลิเมตร กว้าง 2.78 มิลลิเมตร หนา 2.03 มิลลิเมตร ข้าวกล้องสีขาว มีความยาวเฉลี่ย 7.08 มิลลิเมตร กว้าง 2.22 มิลลิเมตร หนา 1.76 มิลลิเมตร จัดเป็นข้าวเหนียวเมล็ดยาว รูปร่างเรียว (อัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 3.19) คุณภาพการสีดี ได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวร้อยละ 42.2 อุณหภูมิแป้งสุกต่ำ เมื่อนึ่ง สุกเนื้อ สัมผัสนุ่ม ระยะพักตัวของเมล็ด 9 สัปดาห์ ต้านทานต่อโรคไหม้ระยะกล้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนะนำให้ปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการระบาดของโรคไหม้ แต่อ่อนแอต่อโรคไหม้คอรวง โรคขอบใบแห้ง แมลงบั่ว และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล</p> สมใจ สาลีโท สุรเชษฐ์ ชามนตรี จิรวุฒ ภาสดา อังคณา กันทาจันทร์ ยุพดี รัตนพันธ์ คนึงนิจ ศรีวิลัย วิรงค์รัตน์ พิมพ์แสน สุภาภรณ์ จันทะนุด วิศวะ กุลนะ ประจวบ มุทเสน ชาญชัย คำเบ็ง นันทิดา สินสายไทย จีรนันท์ นิติเศรษฐ์ รุจิรัตน์ วงษ์จันทร์แดง เรณู จำปาเกตุ พุธชาติ ศรีพนม รุ่งฤดี ทัณทะรักษ์ สังวร ชาติชำนิ ศุภมิตร ไชยนุ พรภิรมย์ ผลบุญ สุวิทย์ กุลสุข พิษณุ หินตั้ง ปาริชาติ คงสุวรรณ นภสร แก้ววิเศษ ธนธัช ตะสันเทียะ อิสระพงศ์ บุตรจันทร์ สุพัฒนา บุรีรัตน์ ธัญวราภรณ์ ปรุงฆ้อง กิตติพงศ์ เพ็งรัตน์ ธีระวัช สุวรรณนวล จงใจ มะปะเข จรัญจิตร เพ็งรัตน์ อรชุณร์ สารพินิจ ชนะ ศรีสมภาร ยศพร ตันสมรส อลงกด ลีนารถ ปัญญา คำแสนพันธ์ ธานี ชื่นบาน อภิชาติ สายยศ รัฐธิภา ธนารักษ์ นารีรัตน์ พยุงธรรมแก้วทา สมลักษณ์ มอญขาม อนุชาติ คชสถิตย์ อุไรวรรณ คชสถิตย์ นันทิภา คำขจร วราภรณ์ วงศ์บุญ ปิยะนุช เทียงดีฤทธิ์ กฤษณา สัตยากุล รานี เมตตาจิตร รัฐพงศ์ มีกุล สมหมาย เลิศนา พันนิภา ยาใจ ธนาภา สมใจ วัชรี สุขวิวัฒน์ สุนันทา วงศ์ปิยชน กัญญา เชื้อพันธุ์ ปราณี มณีนิล พยอม โคเบลลี่ กฤษณา สุดทะสาร รณชัย ช่างศรี จิรพงศ์ ใจรินทร์ จินตนา ไชยวงค์ ศุภลักษณา สนคงนอก สุนิยม ตาปราบ วีระศักดิ หอมสมบัติ ธีรยุทธ ตู้จินดา ศิริพร กออินทร์ศักดิ์ ศิริภา กออินทร์ศักดิ์ Copyright (c) 2024 กรมการข้าว 2024-06-29 2024-06-29 15 1 21 50 ข้าวเจ้าพันธุ์หอมหัวบอน 35 (กระบี่ 72) https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ/article/view/108 <p>ข้าวไร่เป็นพืชที่เกษตรกรทางภาคใต้นิยมปลูกในพื้นที่โค่นยางพาราหรือปาล์มน้ำมันใหม่ หรือปลูกเป็นพืชแซมในระหว่างแถวยางพาราและปาล์มน้ำมัน ข้าวหอมหัวบอนเป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดกระบี่ กลิ่นหอมเหมือนเผือกข้าวหุงสุกมีรสสัมผัสดีนุ่มหุงขึ้นหม้อ เยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง มีสารแกมมาออไรซานอล และปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระรวมค่อนข้างสูง แต่มีปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์ ส่งผลให้คุณภาพและปริมาณผลผลิตข้าวที่ได้ต่ำ เพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวไร่หอมหัวบอนให้เป็นพันธุ์บริสุทธิ์ และรักษาคุณภาพเมล็ดและคุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี เหมาะสำหรับปลูกแซมยางพาราและปาล์มน้ำมันในภาคใต้ ศูนย์วิจัยข้าวกระบี่ได้เก็บรวบรวมพันธุ์จากอำเภอเขาพนม อำเภอเกาะลันตา อำเภอเหนือคลอง และอำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ ปลูกพัฒนา เพื่ออนุรักษ์พันธุ์จนได้สายพันธุ์ KBIC16003-35 ศึกษาวิจัยปรับปรุงพันธุ์ตามขั้นตอน คือ การเปรียบเทียบผลผลิต ความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูข้าว การตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจน คุณภาพเมล็ดทางกายภาพและทางเคมี คุณภาพการหุงต้มและรับประทาน และการยอมรับของเกษตรกร และเนื􀃉องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2567 คณะกรรมการพิจารณาพันธุ์ กรมการข้าว ได้มีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง ใช้ชื่อว่าข้าวเจ้าพันธุ์ “หอมหัวบอน 35” (กระบี่ 72) เป็นข้าวไร่ไวต่อช่วงแสง ข้าวเปลือกเมล็ดสีฟาง กระน้ำตาล ก้นจุด ความยาวเฉลี่ย 10.06 มิลลิเมตร กว้าง 2.34 มิลลิเมตร และหนา 1.84 มิลลิเมตร ข้าวกล้อง มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง ความยาวเมล็ดข้าวกล้องเฉลี่ย 7.75 มิลลิเมตร กว้าง 2.07 มิลลิเมตร หนา 1.71 มิลลิเมตร รูปร่างเรียว (อัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 3.74) ท้องไข่น้อย (0.04) คุณภาพการสีดีมากได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าว ร้อยละ 51.00 น้ำหนักข้าวเปลือก 23.40 กรัมต่อ 1,000 เมล็ด และ 10.72 กิโลกรัมต่อถัง เป็นข้าวที่มีอมิโลสปานกลาง (ร้อยละ 21.58) คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี ข้าวกล้องเมื่อหุงสุกมีความนุ่ม ค่อนข้างเหนียว มีกลิ่นหอม (2AP = 1.46 ppm) มีปริมาณสารแกมมาออไรซานอล 452.62 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระรวม 581.29 มิลลิกรัม TE ต่อ 100 กรัม ค่อนข้างต้านทานโรคไหม้ในระยะกล้า เหมาะสำหรับปลูกแซมยางพาราและปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่ อายุ 1-3 ปี ในภาคใต้ ข้อควรระวังคือ อ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล</p> อริณย์ทพัช สงไกรรัตน์ กนกอร เยาว์ดำ รชนิศ พานิชกิจ ภิวนุช ชูเรือง สุดารัตน์ จิตเขม้น นุชนาถ ขุนทอง ดลตภร โพธิ์ศิริ เสรี พลายด้วง อนุชิตา รัตนรัตน์ พัชราภรณ์ รักษ์ชุม ชนสิริน กลิ่นมณี ชลวิทย์ แก้วนางโอ กันต์ธณวิชญ์ ใจสงฆ์ บุปผารัตน์ รอดภัย กฤษณะ ศิริรัตน์ รัตนวรรณ จันทร์ศศิธร รณชัย ช่างศรี Copyright (c) 2024 กรมการข้าว 2024-06-29 2024-06-29 15 1 51 67 ข้าวเจ้าพันธุ์ กข99 (หอมคลองหลวง 72) https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ/article/view/110 <p>ประเทศเวียดนามและกัมพูชามีการพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมพื้นนุ่มที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับข้าวหอมไทย แต่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า ทำให้ได้เปรียบด้านราคา ส่งผลให้ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดโลกเพิ่มขึ้น ข้าวหอมพื้นนุ่มของไทยมีผลผลิตต่อไร่ต่ำ จำนวนพันธุ์ไม่หลากหลาย ต้นทุนการผลิตสูง ดังนั้น จึงต้องพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมพื้นนุ่ม คุณภาพการหุงต้มดี ผลผลิตสูง ปลูกได้ทั้งปี ต้านทานต่อโรคและแมลง โดยฤดูนาปรัง 2555 ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา ได้ผสมพันธุ์ข้าวระหว่างพันธุ์ IR841 (พันธุ์แม่) กับพันธุ์ชัยนาท 1 (พันธุ์พ่อ) ปลูกข้าวพันธุ์ผสมประชากรรุ่นที่ 1 และ 2 ปลูกคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวรุ่นที่ 3-7 ได้สายพันธุ์ CCS12009-KLG-18-1-1-3-1 ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ตามขั้นตอนคือ ปลูกศึกษาพันธุ์ เปรียบเทียบผลผลิต ทดสอบปฏิกิริยาต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญ ทดสอบการตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจน วิเคราะห์คุณภาพเมล็ดทางกายภาพและเคมี คุณภาพการสี การหุงต้มและรับประทาน และการยอมรับของเกษตรกรและผู้ประกอบการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559-2565 และเนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2567 คณะกรรมการพิจารณาพันธุ์ กรมการข้าว ได้มีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง ใช้ชื่อว่า ข้าวเจ้าพันธุ์ “กข99” (หอมคลองหลวง 72) เป็นข้าวเจ้าพื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง กลิ่นหอม (ปริมาณ 2AP เฉลี่ย 1.69 ppm) อายุเก็บเกี่ยว 115 วัน โดยวิธีปักดำ สั้นกว่าพันธุ์ปทุมธานี 1 ทรงกอตั้งตรง ลำต้นแข็งไม่หักล้มง่าย ความสูงประมาณ 113 เซนติเมตร แผ่นใบและกาบใบสีเขียว ความยาว 40.5 เซนติเมตร กว้าง 1.33 เซนติเมตร ความยาวรวง 29.6 เซนติเมตร รวงแน่นปานกลาง การแตกระแง้ถี่ การยืดคอรวงปานกลาง จำนวนเมล็ดดีต่อรวง 175 เมล็ด การติดเมล็ดร้อยละ 88 นวดง่ายปานกลาง จำนวนรวงต่อกอ 11 รวง ให้ผลผลิต 780 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าพันธุ์ปทุมธานี 1 (692 กิโลกรัมต่อไร่) คิดเป็นร้อยละ 13 ศักยภาพผลผลิตสูงสุด 957 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวเปลือกสีฟาง ไม่มีหาง เมล็ดยาว 11.00 มิลลิเมตร กว้าง 2.62 มิลลิเมตร หนา 2.09 มิลลิเมตร เมล็ดข้าวกล้องเรียว ความยาว 7.79 มิลลิเมตร กว้าง 2.22 มิลลิเมตร หนา 1.80 มิลลิเมตร ข้าวสารยาว 7.43 มิลลิเมตร กว้าง 2.14 มิลลิเมตร หนา 1.76 มิลลิเมตร ระยะพักตัว 4 สัปดาห์ คุณภาพการสีดีมาก ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวร้อยละ 50.03 ผลิตเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 1 ได้ เป็นข้าวอมิโลสต่ำเฉลี่ยร้อยละ 17.85 อุณหภูมิแป้งสุกต่ำ (ระยะทางการไหลของแป้ง 83 มิลลิเมตร) อัตราการยืดตัวของเมล็ดข้าวสุกปกติ (1.68 เท่า) ข้าวสุกมีสีขาวนวล การเกาะตัวค่อนข้างเหนียว เนื้อสัมผัสนุ่ม ค่อนข้างอ่อนแอต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคไหม้ และโรคขอบใบแห้ง เหมาะสำหรับพื้น ที่ส่งเสริมปลูกข้าวหอมไทย นาชลประทานภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนบน</p> ประกอบกิจ ดังไธสง สุกัญญา ดาผา อมรรัตน์ อินทร์มั่น บังอร ธรรมสามิสรณ์ รัตนวรรณ จันทร์ศศิธร ณัฐ ผลอ้อ ชัยรัตน์ จันทร์หนู ดวงพร วิธูรจิตต์ อนรรฆพล บุญช่วย ดวงกมล บุญช่วย ชวนชม ดีรัศมี เบญจวรรณ พลโคต อลิษา เสนานุสย์ ควพร พุ่มเชย กฤษฎา ชูช่วย ประดิษฐ์ อุ่นถิ่น ภูวิวรรธน์ ทิพย์เคลือ วัลภา ทองรักษ์ กนกอร วุฒิวงศ์ สมพง สุริวงศ์ ภาคภูมิ เนตนิล วัชรี สุขวิวัฒน์ ปราณี มณีนิล ธารารัตน์ มณีน่วม พายัพภูเบศวร์ มากกูล บุษกร มงคลพิทยาธร ประจักษ์ เหล็งบำรุง ขวัญชนก ปฏิสนธิ์ กิตติพงษ์ ศรีม่วง Copyright (c) 2024 กรมการข้าว 2024-06-29 2024-06-29 15 1 68 91 การสำรวจและตรวจเชื้อ Burkholderia glumae และ Burkholderia gladioli สาเหตุโรครวงไหม้ของข้าวในประเทศไทย ด้วยวิธีทางชีวโมเลกุล https://li03.tci-thaijo.org/index.php/TRRJ/article/view/80 <p>โรครวงไหม้ของข้าวเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย <em>Burkholderia glumae</em> และ <em>B. gladioli</em> ในพื้นที่ที่พบการระบาดรุนแรง เชื้อ <em>B. glumae</em> ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงร้อยละ 75 งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการแพร่ระบาดของโรครวงไหม้ของข้าวในประเทศไทย และจำแนกชนิดเชื้อแบคทีเรียสาเหตุโรค โดยสำรวจโรครวงไหม้ในแปลงนาข้าว ระหว่างปี พ.ศ. 2562-2566 รวม 225 แปลง ใน 38 จังหวัด เก็บตัวอย่างเมล็ด กาบใบ และใบข้าวที่แสดงอาการโรครวงไหม้มาแยกเชื้อแบคทีเรียบนอาหาร NA เมื่อตรวจสอบด้วยปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (พีซีอาร์) โดยใช้ไพรเมอร์ที่จำเพาะต่อบริเวณ 16S-23S rDNA ITS ของเชื้อ <em>B. glumae</em> และ <em>B. gladioli</em> พบเชื้อแบคทีเรีย จำนวน 118 ไอโซเลท จาก 38 แปลงใน 16 จังหวัด (ภาคกลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้) รวมทั้ง ในแปลงศึกษาพันธุ์ข้าวนาน้ำฝนระหว่างประเทศที่ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี สกลนคร และหนองคาย ให้ผลบวกต่อเชื้อ<em> B. glumae</em> ซึ่ง สอดคล้องกับผลวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์บริเวณ 16S-23S rDNA ITS ผลการทดสอบคุณสมบัติทางชีวเคมี และผลการวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์ทั้งจีโนมของแบคทีเรียไอโซเลท BG19NPT-03, BG22PNA-49 และ BG23SSK04-20 จำแนกเป็นเชื้อ <em>B. glumae</em> มีค่ามาตรฐานที่ใช้จำแนกชนิด (species) แบคทีเรีย (ANI) ร้อยละ 99.80 99.94 และ 99.66 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบเชื้อแบคทีเรีย 3 ไอโซเลท จาก 3 แปลง ในสองจังหวัด ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ผลบวกต่อเชื้อ<em> B. gladioli</em> เมื่อตรวจด้วยวิธีพีซีอาร์และคุณสมบัติทางชีวเคมี การพิสูจน์เชื้อสาเหตุโรคบนข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 พบว่า เชื้อแบคทีเรียทำให้ต้นข้าวแสดงอาการกาบใบและใบเน่าเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทา ขอบแผลสีน้ำตาลเข้ม หรือสีน้ำตาลแดง เมล็ดลีบเปลี่ยนเป็นสีฟางข้าว โดยกลีบดอกเน่าเป็นสีน้ำตาลตามแนวขวาง เหมือนกับอาการของโรครวงไหม้ที่พบในสภาพธรรมชาติ เพื่อดำเนินมาตรการฉุกเฉินในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ <em>B. glumae</em> สายพันธุ์จากต่างประเทศ ตามมาตรฐานสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างประเทศได้รายงานผลการตรวจวินิจฉัยไปยังศูนย์วิจัยข้าวทั้ง 3 แห่ง และกรมวิชาการเกษตร และได้ดำเนินการกำจัดข้าวทั้ง หมดในแปลงศึกษาพันธุ์ข้าวต่างประเทศทั้ง 3 แห่งแล้ว</p> อริษา จิตรติกรกุล พยอม โคเบลลี่ ไอลดา ชุมแสง ศุภลักษณา สนคงนอก คนึงนิจ ศรีวิลัย อังคณา กันทาจันทร์ กิตติพงษ์ ศรีม่วง พสชนัน ชัยวิริยะพงศ์ สมศักดิ ลีลากุด พิกุล ลีลากุด สุนิตา ปาวะรีย์ ธีรดา หวังสมบูรณ์ดี Copyright (c) 2024 กรมการข้าว 2024-06-29 2024-06-29 15 1 92 110